ในการทำการตลาดบน Search Engine นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ Keyword ถ้าเราเลือก Keyword ได้ดี โอกาสที่จะจูงใจลูกค้าให้ซื้อของหรือบริการก็จะมากขึ้นตามไปด้วย คนในวงการมักแบ่งประเภทของ Keyword ออกเป็นกลุ่มเพื่อให้สามารถทำงานได้ง่าย ซึ่งบทความวันนี้ผมจะขอหยิบเอา 5 ประเภทหลักๆของ Keyword ที่นิยมใช้กันนั่นก็คือ Generic Keyword, Brand Keyword, Long tail Keyword, Misspelling Keyword, Competitor Keyword
ทั้ง 5 เป็นการจำแนกตามจุดประสงค์ของ Keyword ออกเป็นกลุ่มๆ ซึ่งการจัดประเภทนี้เป็นคนละอันกับ Match types ของ Keyword (Broad, Phrase, Exact) อ่านบทความนี้ให้จบรับรองว่ามีประโยชน์แน่นอนสำหรับการทำ Search Marketing ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO หรือ Paid Search ก็ตาม
- Generic Keyword คือ Keyword ทั่วๆไปที่ผู้ค้นหาใช้โดยไม่ได้สื่อความหมายตรงๆไปยังแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หรือ สินค้าประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่มีจุดประสงค์กว้างๆในการค้นหาเช่น เที่ยวอเมริกาเหนือ, เสื้อยืด, กาแฟลาเต้, ลดน้ำหนัก จะเห็นว่า Keyword ที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นคำกว้างที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้ค้นหาเมื่อต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ
- Brand Keyword คือ Keyword ที่มีความหมายเจาะจงไปที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ซึ่งผู้ค้นหาใช้ Keyword เหล่านี้ในการค้นหาเพื่อแสดงถึงความประสงค์ที่จะเข้าเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆเช่น Lazada, Sanook, Microsoft จะเห็นว่ามันเป็นกลุ่ม Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงในการค้นหามากในระดับหนึ่ง คนที่ค้นหาด้วย Keyword คำว่า Lazada นั่นก็เพราะเขาต้องการที่จะเข้าสู่เว็บไซต์ Lazada
- Long tail Keyword คือ Keyword ที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงมากๆ ผู้ค้นหาใช้ Keyword เหล่านี้ในการค้นหาโดยมีจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ตัวอย่างเช่นผู้ค้นหาเข้าไป Search โดยใช้คำว่า “สมัคร บัตรเครดิต กรุงศรี First choice” เห็นมั้ยครับว่ามันเฉพาะเจาะจงสุดๆ คนที่ Search ด้วยคำนี้มีแนวโน้มที่จะสมัครเครดิตมากกว่าการ Search โดยใช้ Keyword คำว่า “บัตรเครดิต” ในปัจจุบัน Long tail Keyword ได้รับความนิยมนำเอามาทำ Search Marketing เป็นอย่างมาก
- Competitor Keyword คล้ายๆกับ Brand Keyword แต่เป็น Keyword ที่สื่อถึง Brand ของคู่แข่ง โดยมากใช้เพื่อทำการแย่งลูกค้ามาจากคู่แข่ง ตัวอย่างเช่นธนาคาร XYZ อาจจะซื้อ Keyword คำว่า “บัตรเครดิต ธนาคาร ABC” เพื่อแย่งลูกค้ามาจากธนาคาร ABC ก็เป็นได้
- Misspelling Keyword ตามชื่อเลยครับ มันก็คือ Keyword ทั่วๆไปนี่แหละเพียงแต่ผู้ค้นหาอาจจะพิมพ์คำนั้นผิด อาจจะเป็นเพราะว่าสะกดผิดหรือลืมเปลี่ยนภาษาเช่นผู้ค้นหาต้องการจะค้นหาคำว่า “iphone” แต่ดันลืมเปลี่ยนภาษาจนกลายเป็นคำว่า “รย้นำ” อะไรทำนองนี้ ทำให้การซื้อ Keyword ที่เขียนผิดดักเอาไว้ได้รับความนิยมมากในอดีต แต่ในปัจจุบันกลายเป็น Keyword ที่ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่แล้ว เนื่องจาก Volume ในการค้นหามีน้อยและ Search engine ส่วนใหญ่ก็จะมีการเดาคำผิดให้แทนอยู่แล้ว
ประโยชน์ของการแบ่ง Keyword ออกมาเป็นกลุ่มๆทั้ง 5 จะช่วยให้คนทำการตลาดในเครือข่ายค้นหา (Search Marketing) สามารถบริหารจัดการ Keyword ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถ Focus ไปยัง Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงต่างกันและเลือกหน้า landing page ที่เหมาะสมกับ Keyword แต่ละคำได้
นอกจากนี้การแบ่ง Keyword ออกเป็นกลุ่มๆตามประเภท ยังมีประโยชน์ในการวาง Campaign Structure เพื่อทำ Paid search ให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย